เมื่อช่วงเย็นของ วันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 9 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขธ์  กล่าวถึงลูกช้างเพศผู้อายุ 5 ปี ได้สิ้นลมแล้วภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

หลังนำลูกช้างป่ามีอาการบาดเจ็บที่ขาขวาด้านหลัง ขึ้นรถบรรทุกรถ 6 ล้อ ออกจากบริเวณใกล้ร่องห้วยชายป่าหุบน้ำโจน  บ้านแพรกตะลุย หมู่ 6 บ้านเขาจ้าว อ.ปราณบุรี เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม  เพื่อนำมารักษาอาการที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  โดยมีทีมสัตวแพทย์ค่อยดูแลอย่างใกล้ชิด จากนั้นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  ได้นิมนต์พระภิกษุวัดรวมไทย มาสวดบังสุกล เพื่ออุทิศส่วนกุศลเนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่คู่บ้านคู่เมือง

ต่อมานางสาวกชพร พิมพ์สิน  สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ  พร้อมด้วย สัตวแพทย์หญิงสุนิตา วิงวอน นายสัตวแพทย์ประจำกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯและ ทีมแพทย์สัตวแพทย์  ได้ทำการผ่าพิสูตรเก็บชิ้นเนื้อส่งตรวจที่ ภาคพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทย์ จุฬารงกรณ์มหาวิทยาลัย  ตามขั้นตอน  ซึ่งจากการผ่าพิสูตรเบื้องต้นพบว่า กล้ามเนื้อบริเวณหลังซ้ำมีเลือดคลั่งอยู่ในกล้ามเนื้อ  กระดูกเชิงกรานหัก  กระดูกสะโพกด้านหลังขวาหลุด  และข้อเข่าขวาหลุด   คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุทำให้ลูกช้างป่าตัวดังกล่าวทนพิษบาดแผลไม่ไหวล้มลง  จากนั้นอุทยานได้นำรถแบคโฮมาขุดหลุมฝั่งกลบลูกช้างป่าตัวดังกล่าวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์  ได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่า  หลังจากนำลูกช้างป่ามารักษาอาการที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี   โดยอาการดีขึ้นตามลำดับ พอมาถึงช่วงบ่ายอยู่ๆ งวงของลูกช้าง ก็ไม่ขยับ  เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบดู จึงพบว่าลูกช้างไม่หายใจแล้ว  เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์ ได้เร่งปั้มหัวใจเพื่อช่วยเหลือลูกช้างนานกว่า 30 นาที แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ   คาดว่าลูกช้างตัวดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บมาด้วยอาการบอบช้ำมาอย่างหนักและทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้ล้มลงในที่สุด

เรียบเรียงโดย เจริญ อาจประดิษฐ์ ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์